การจัดผังเฉพาะย่านการค้าธุระกิจกลางเมือง (บริเวณสัมพันธวงศ์-ราชวงศ์)

Abstract

วิทยานิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาสถาปัตยกรรมมหาบัณฑิต ภาควิชาออกแบบชุมชนและผังเมือง จุดประสงค์ของการศึกษา มีดังต่อไปนี้ 1.เป็นการฝึกฝนศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ ทางด้านการออกแบบชุมชนและผังเมืองของนักศึกษา 2.ศึกษาการขยายตัวของชุมชนและการเพิ่มประชากร เพื่อจะได้จัดพื้นที่ที่จำเป็นของชุมชนนี้เตรียมไว้ในอนาคต 3.ศึกษาถึงแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงทางการใช้ที่ดิน เพื่อจะได้วิจัยและจัดแนวทางพร้อมทั้งจัดระเบียบ อันจะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้มีสุขภาพดี ปลอดภัยและมีสภาพทางสังคมที่ดี บริเวณที่จะทำการศึกษา เป็นย่านชุมชนและการค้าเก่าของ กทม. ในเขตที่เรียกว่า ย่านสัมพันธวงศ์ โดยมีอาณาเขตบริเวณติดต่อโดยรอบดังนี้ ทิศเหนือ บริเวณถนนเยาวราช ทิศใต้ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศตะวันออก ถนนทรงสวัสดิ์ ทิศตะวันตก ถนนราชวงศ์ บริเวณที่ทำการศึกษามีเนื้อที่ 1.41 กิโลเมตร2 หรือ 154.12 ไร่ ประชากร 13,989 คน (พ.ศ. 2518) ขอบเขตด้านการศึกษา จะทำการศึกษา 1.กายภาพ ศึกษาให้ทราบถึงสภาพในปัจจุบันโดยทั่วไปของบริเวณที่ทำการศึกษาวิจัย เช่น การใช้ที่ดิน การจราจร และสภาพอื่น ๆ ที่จะมีอิทธิพลเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อม จากการศึกษากายภาพนี้ จะนำไปประเมินผลหาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งในบริเวณและบริเวณข้างเคียง แล้วนำผลเหล่านี้ไปพิจารณาประกอบการวางแผนปรับปรุงบริเวณที่ทำการวิจัย 2.สังคม ศึกษาลักษณะทางสังคมของประชากรที่อยู่ในบริเวณนี้ เพื่อนำข้อเท็จจริง (รายละเอียดและปัญหาไปประกอบการเสนอแนะแนวการจัดวางระเบียบชุมชน 3.เศรษฐกิจ ศึกษาถึงสภาพเศรษฐกิจของประชากรด้านสังคม แหล่งทำงาน แหล่งการค้า และสภาพทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับย่านที่ทำการศึกษา หลักฐานเหล่านี้จะเป็นส่วนสนับสนุนในการเสนอแนะการวางแผนปรับปรุงบริเวณที่ทำการศึกษาวิจัย วิธีกาสำรวจ 1.ออกสำรวจในที่ทำการศึกษาโดยอาศัยแผนที่จากหน่วยงานของรัฐ (กรุงเทพมหานครและแผนที่ของกองตำรวจดับเพลิง สำนักผังเมือง) ประกอบด้วยการเดิน ขับรถยนต์ และนั่งรถยนต์ ลงเรือยนต์ เพื่อศึกษารายละเอียดในการใช้ที่ดินและปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 2.ใช้วิธีสอบถามประชาชนในที่ทำการศึกษาด้วยปาก และโดยการบันทึกสภาพความเป็นอยู่ รายรับ รายจ่าย ฯลฯ 3.ศึกษาลักษณะการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน จากสภาพที่เป็นอยู่ประกอบกับแผนที่ของกรุงเทพมหานคร และแผนที่ของตำรวจดับเพลิงและสำนักผังเมืองโดยการออกสำรวจบริเวณที่ทำการวิจัย 4.ทำการถ่ายภาพและสไลด์ระดับพื้นที่ จุดที่มีปัญหาและสภาพแวดล้อมโดยทั่วไป ผลจากการวิจัย 1.พิจารณาทางด้านประชากรที่มีอยู่ในกรุงเทพมหานครกับจำนวนประชากรในบริเวณที่ทำการวิจัยเปรียบเทียบความหนาแน่นโดยเฉลี่ย 2.พิจารณาจากการใช้ที่ดินในปัจจุบัน บริเวณที่ทำการศึกษาวิจัย มีการใช้ที่ดินปะปนกันอยู่หลายประเภทตามยถากรรม ขาดความสัมพันธ์ที่เหมาะสม ดังที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบันเป็นต้นว่า อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม โกดัง สำนักงาน โรงภาพยนตร์ โรงน้ำชา ที่อยู่อาศัย สภาพการใช้ที่ดินปะปนกันก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ 3.พิจารณาทางอายุ สภาพอาคาร อาคารในบริเวณนี้มีอาคารประเภทอายุ 1 ปี – 10 ปี มี 13 – 14 ไร่ หรือ 13.69 % อาคารอายุ 11 ปี – 20 ปี มี 11.21 ไร่ หรือ 11.59 % อาคารอายุ 21 ปี – 30 ปี มี 13.41 ไร่ หรือ 13.79 % อาคารอายุ 31 ปี – 40 ปี มี 4.41 ไร่ หรือ 4.59 % อาคารอายุ 41 ปี – 50 ปี มี 11 ไร่ หรือ 11.46 % และอาคารอายุ 51 – 120 ปี มี 47.48 ไร่ หรือ 44.70 % จะเห็นว่าอาคารในบริเวณนี้ส่วนใหญ่มีสภาพอาคารเก่า (โปรดดูรายละเอียดหน้า 34, 37) 4.พิจารณาทางด้านอัตราเพิ่มของสิ่งปลูกสร้าง บริเวณที่ทำการศึกษาวิจัยในปี พ.ศ. 2518 มีอาคารปลูกสร้างใหม่และต่อเติมมีพื้นที่ 8.90 ไร่ หรือ 5.77 % นับว่ามีการเปลี่ยนแปลงพัฒนา Development น้อยมาก ถ้าปล่อยให้สภาพทรุดโทรมต่อไปจะก่อให้เกิดปัญหาอันตรายจากสภาพอาคารเก่า 5.พิจารณาจากราคาที่ดิน ที่ดินในบริเวณที่ทำการศึกษาวิจัยมีราคาสูงมากคือ มีราคาตั้งแต่ไร่ละ 4,000,000 บาท – 6,000,000 บาท แต่อาคารมีสภาพเก่า การก่อสร้างน้อยชั้นเป็นการใช้ที่ดินยังไม่คุ้มค่า 6.พิจารณาจากผู้มีสิทธิในที่ดิน ส่วนใหญ่เป็นของเอกชน คือ มีที่ดิน 58.54 ไร่ หรือ 53.22 % รองลงไปเป็นที่ดินของทางการศาสนา ซึ่งมีที่ดิน 5.96 ไร่ หรือ 5.64 % และเป็นที่ดินของทางราชการและที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 1.21 ไร่ หรือ 1.41 % ที่ดินจึงมีราคาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะเอกชนทำการขึ้นราคาตามความพอใจของตน 7.พิจารณาปัญหาระบบการจราจร บริเวณที่ทำการศึกษาวิจัย มีถนนสายสำคัญ 4 สาย ได้แก่ ถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ ถนนทรงวาดท ถนนทรงสวัสดิ์ ซึ่งถนนแต่ละสายเป็นทางเชื่อมกับถนนสายสำคัญสายอื่น จึงทำให้การจราจรคับคั่ง เกิดปัญหารถติด เสียงรบกวนจากท่อไอเสียและปัญหากลิ่น จึงสมควรที่จะแก้ไขและปรับปรุงให้ดีขึ้น 8.พิจารณาถึงระบบสาธารณูปการ ในบริเวณนี้ยังขาดถนน ซึ่งมีไม่เพียงพอสภาพทรุดโทรม ระบบการระบายน้ำทิ้งต้องจัดใหม่ทั้งหมดเพราะเดิมการระบายน้ำยังใช้ระบบเก่าซึ่งมีมาแล้วร้อยกว่าปี สภาพใช้ไม่ได้ ไม่มีที่กำจัดขยะมูลฝอย ปัญหาที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้จะต้องนำมาปรับปรุงให้มีสภาพดีขึ้น พร้อมที่จะให้บริการแก่ผู้อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ 9.พิจารณาถึงสวนสาธารณะ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญยิ่งของมนุษยชาติที่จะใช้เป็นที่พักผ่อน แต่บริเวณที่ทาการศึกษาวิจัยนี้ไม่มีเลย ประชากรที่อยู่ในบริเวณนี้จะพักผ่อนได้ในบ้าน ริมถนนหน้าบ้าน และบริเวณวัด แต่วัดแทบทุกวัดจะรับฝากจอดรถจึงหาที่ว่างเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนไม่พอ 10.พิจารณาถึงนโยบายผังเมือง โดยปรับปรุงบริเวณที่ทำการศึกษานี้ให้มีแนวโน้มตามนโยบายหลักของผังเมืองที่วางโครงการระยะยาวไว้ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอีกด้านหนึ่ง

This thesis is part of the study Curriculum of the Architecheral Master degree: the department of Urban design and planning. The aim or studying is as follows. 1.To train, study, and gain the experience about the city urban design and planning. 2.To study about the expanding of urban and population in order to provide necessary area of the urban reserves for future. 3.To study the way of change and the varied of level expending in order to do the research and to direct and make a good discipline of people on making healthy living, safe and better in the society. The area of studying. The area is the people and trading center of Bangkok called Sumphantawong it is bound ring with North : the Jawaraj Street area. South : along the Chao Phaya liver. East : the Song Sawat road. West : Rajawong road. The study area is 141 Riometers wide or 154.12 ai, with the 13,989 population.

To pies to be study 1.Phisically study the outside state today generally of the area which is to be research for example, use of land the traffics and other situation. From this physically study would lead to the evaluation of searching problems that happened both in the area and the nearby area Thus this summary would be the main idea in planning to develop the research area. 2.Social study: - study the social physical of the area population to take the fact and problem to reorganize the urban system lotion discipline. 3.Economics: - study about the economic situation of population, and place of work trading center and old the other economic situation that is in the research circumstance. These all reasons would be the suggestion on the development of the research area.

Process of Surveying. 1.Surveying in the study area by the Bangkok map and the map of the department of states institute, fire police, department of…… 2.All the data were from oral Conversations and by recording the living situation, incoming salary, and purchasing power. 3.Study the changing form of land use from the real life and living and the Bangkok map and the Fire police map and from surveying. 4.Photo and slide color snapped, the land level of problem spot. With the total atmosphere.

The result of the research. 1.The populations, examine of the population amount in Bangkok in the research area, compare to average density of people. 2.Examine of the present land use. The research area has many kinds of use, ignorance of the well organize land using such as trading building, factories, god owns and offices and that makes complication which cause the land use problems tearoom and residential. 3.Exmic of the age and Conditions of building. The building ages of this area are: - 1 – 10 year for 13.14 rai, or 13.69 %, 11 -20 year for 11.21 rai, or 11.59 %, 21 -30 year for 13.41 rai, or 13.97 %, 31 – 40 year for 4.41 rai, or 4.59 %, 41 -50 year for 11 rai, or 11.46 %, 51 – 120 year for 47.48 rai, or 44.70 %. Majority of the building were unavailable old. 4.Examine the increasing of buildings in the researching area in the year of 1518 B.E. there are new building and new building adding to the old ones for 8.90 rai or 5.77 % this show less improvement if this is left further more regardless it would cause a great deal of problem which is harmful from the very old building. 5.Examine from the cost of the land, the cost in the research area is very high begins with 4,000,000 Bath to 6,000,000 Bath per rai but the building were old and less stories not worth for the land cost. 6.Examine from the owner of the land almost of the land 58.55 rai or 53.22 % belong to private owner the second most is belong to the religions this has 5.96 rai or 5.64 % and 1.21 rai belong to govement department and 1.41 belong to the Royal treasury. Thus, the land cost is increast rapidly because the privacy improves their land cost by the improvement of their land. 7.Examine the traffic problems of the research area: - With four main streets: Jawaraj, Rajchawong, Songward and Songsawad each or these streets were connected with other main streets, this caused much of traffic gain loud noise, and air pollutions should be reorganized as soon as possible. 8.Examine the public services this area is lock of roads the roads it has presently and less and cracked and decayed: sewage system must be totally rearranged because the old one is in use for over unusable and the refuse has no specific place the present problems needs the rearrange for the good conditions enough for people to live in this area. 9.Examine of the parks which is much significant for mankind. Public park is one of the best for men for relaxation but there were none in this case are people has to relax in or in front of their own house and in the temple area in the rother hand the temple itself has it’ s plan for hire of parking so, there is almost no place for relax at all. 10.Examine of the city planning policy by improve the study area to complement the main policy of the city plan for the long period. That would gain much of the benefit for the Public.