This research aims to develop a guideline for the presentation of independent artists' works, To Study affecting organizer's decision to choose a band to perform at each concert, And to study the factors affecting audiences' decision to buy tickets' music concerts.
The methodology of this research is mix of qualitative and quantitative research including 2 parts: The qualitative research in the first part, with 2 concert organizers’ of PARINAM MUSIC LTD. and the quantitative research in the second part in which 400 questionnaires where collected from online consumer in the communities of independent concerts/artists. To analyze, this research uses statistic tools including distribution of frequency, percentage, mean and standard deviation.
The research concludes, that significant factors to affecting organizer's decision to choose a band to perform at each concert is it must be a band that the organizing team likes and wants to see their live performance first. Meanwhile, the quality of bands’ live performance is also one of the key factors affecting audiences' decision to buy tickets. What the above research had concludes led to the development of a guideline for the presentation of independent artists' works. There are 5 strategies including S (Social media activated), C (catchy song), Y (Youth), N (Non-stop to released and K (Keep band quality).
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกวงดนตรีมาแสดงคอนเสิร์ตในแต่ละครั้งของผู้จัดงาน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อบัตรไปดูคอนเสิร์ตดนตรีนอกกระแสในแต่ละครั้งของผู้ชมในเขตกรุงเทพมหานคร 3) เพื่อสร้างแนวทางในการนำเสนองานของวงดนตรีนอกกระแสในประเทศไทย ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้จัดงานในการเลือกวงมาทำการแสดงคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นการวิจัยแบบผสมผสาน (Mix Methodology) ระหว่าง การวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และ การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยส่วนที่ 1 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กับทางผู้บริหารการจัดคอนเสิร์ตบริษัท ปริณาม มิวสิค จำกัด จำนวน 2 ท่าน และส่วนที่ 2 เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยการแจกแบบสอบถาม (Questionnaire) กับกลุ่มผู้ชมในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 400 ราย เพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งผู้วิจัยได้ใช้การแจกแจงความถี่ (Frequencies Distribution) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
โดยผลการศึกษาพบว่าปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกวงดนตรีมาแสดงคอนเสิร์ตในแต่ละครั้งของผู้จัดมากที่สุด จะต้องเป็นวงที่ทางทีมผู้จัดงานนั้นชอบและอยากดูการแสดงสดของวงเหล่านั้น อีกทั้ง คุณภาพในการแสดงของวงดนตรีแต่ละวง ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ชมส่วนใหญ่ให้ความเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด จากผลการวิจัยที่กล่าวมาข้างต้นได้นำไปสู่แนวทางในการนำเสนองานของวงดนตรีนอกกระแสในประเทศไทย ที่ส่งผลต่อการตัดสนใจของผู้จัดงานในการเลือกวงมาทำการแสดงคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง โดยการกำหนดกรอบกลยุทธ์ 5 ตัว ประกอบไปด้วย S (Social media activated) หมายถึง มีการเล่นโซเชียลมีเดียของวงอยู่เรื่อย ๆ C (Catchy song) หมายถึง มีเพลงที่น่าดึงดูดหรือติดหูผู้ฟัง Y (Youth) หมายถึง มีความเป็นวัยรุ่นอยู่เสมอ N (Non-stop to released) หมายถึง ไม่หยุดที่จะปล่อยเพลง และ K (Keep band quality) หมายถึง คงไว้ซึ่งคุณภาพของวง ซึ่งกลยุทธ์ทั้ง 5 ข้อ ที่กล่าวมานี้สอดคล้องกับผลการวิจัยทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยสามารถสรุปกรอบแนวคิดกลยุทธ์ในการนำเสนองานของวงดนตรีนอกกระแสในประเทศไทย ที่ส่งผลต่อการตัดสนใจของผู้จัดงานในการเลือกวงมาทำการแสดงคอนเสิร์ตในแต่ละครั้ง ในชื่อ “SCYNK”
