การพัฒนารูปแบบการสอน การดู การฟัง และการอ่านเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียน

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการสอนการดู การฟัง และ การอ่านเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ และการคิดเชิงเหตุผล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2) ศึกษา ประสิทธิผลรูปแบบการสอนการดู การฟัง และการอ่านเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ และการคิดเชิงเหตุผล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบด้วย 2.1) ประเมินผลสัมฤทธิ์ด้านการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการสอนการดู การฟัง และการอ่านภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการคิด เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2.2) ประเมินผลสัมฤทธิ์ด้านการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนก่อนและหลังการใช้รูปแบบการสอนการดู การฟัง และการอ่านภาษาไทยเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการคิดเชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ 3) ประเมินความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนวัดน้ำพุ เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วยรูปแบบการสอน คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน แผนการจัดการ เรียนรู้ แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และการคิดเชิงเหตุผล วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test for dependent samples) และ การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1. รูปแบบการสอนการดู การฟังและการอ่านเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ และการคิดเชิงเหตุผล ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น มีชื่อว่า "KAI Model" มีองค์ประกอบสำคัญ ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) สาระความรู้ 4) ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 5) ระบบสังคม และ 6) สิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ กระบวนการสอนประกอบด้วย: ขั้นที่ 1 ทำความรู้ให้ชัดเจน (Knowledge Clarification: K) ขั้นที่ 2 เรียนรู้จากการปฏิบัติ (Active Learning: A) และขั้นที่ 3 เพิ่มพูนความสามารถการจัดระบบข้อมูล (Increasing Information abilities: I) ซึ่งมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับ 78.36/75.00, 78.36/70.00 2. ประสิทธิผลของรูปแบบการสอนการดู การฟัง และการอ่านเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ และ การคิด เชิงเหตุผลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น พบว่า 1) หลังเรียนตามรูปแบบการสอน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีทักษะการคิดวิเคราะห์สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) หลังเรียนตามรูปแบบการสอน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีทักษะการคิดเชิงเหตุผลสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. นักเรียนมีความคิดเห็นต่อรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้น (KAI Model) ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด 4. ผลการขยายผลรูปแบบการสอนพบว่า หลังการเรียนตามรูปแบบการสอนนักเรียนมีทักษะการคิด วิเคราะห์ และทักษะการคิดเชิงเหตุผลสูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

The objectives of this research were to: 1) develop and study the efficiency of the Visual literacy listening and Reading instructional model to Enhance critical and Reasoning Thinking of Secondary education Student, 2) Study the effectiveness of the Visual literacy listening and Reading instructional model of Secondary education Student. consists of 2.1) Assesses the critical thinking of students before and after use visual literacy, listening and reading in Thai Language to promote critical thinking of secondary education students. 2.2) Assesses the critical thinking of students before and after use visual literacy, listening and reading in Thai Language to promote reasoning thinking of secondary education students, and 3) Assesses the opinions of the students toward the instruction with the developed critical and Reasoning thinking instructional model. The sample comprised 12 second grade students at Watnumpu School during the second semester of academic year 2014. The research instruments consisted of the Visual literacy listening and Reading instructional model to Enhance critical and Reasoning Thinking of Secondary education Student, Model Handbook, Lesson plans, critical thinking test, reasoning thinking test, The data were analyzed by Percentage (%), mean ( ), standard deviation (S.D.), t-test dependent and content analysis. The results of the study were as follows: 1. The developed instructional model called "KAI MODEL" namely: consisted of important factors 5 components: 1) Principle, 2) objective, 3) content 4) the process of learning activities, 5) Social system, and 6) nurturant effects. The process comprised of 3 phases : phase 1 Knowledge Clarification: K phase 2 Active Learning: A phase 3 Increasing Information abilities: I. The efficiency of this model was 78.36/75.00,78.36/70.00. 2. The study of an effectiveness of the Visual literacy listening and Reading instructional model to Enhance critical and Reasoning Thinking of Secondary education Student were as follows: 1) After using the KAI model, the students’ critical thinking skills were higher than before receiving the instruction at a .05 significance level, and 2) after using the KAI model, the students’ reasoning thinking were higher than before receiving the instruction at a .05 significance level. 3. The opinions of the students toward the instruction with the developed instructional model (KAI Model) were at the highest agreement level. 4 The results of the dissemination indicated that after using the KAI model, the students’ critical thinking skills and reasoning thinking were higher than before receiving the instruction at a .05 significance level.